คะแนนความภักดีของ WooCommerce และปลั๊กอินรางวัล - สุดยอดคู่มือ

กำลังมองหาปลั๊กอิน WooCommerce Points และ Rewards เพื่อตั้งค่าโปรแกรมความภักดีสำหรับร้านค้าของคุณหรือไม่? จากนั้น บทความนี้จะช่วยคุณตั้งค่าโปรแกรมความภักดีเพื่อตอบแทนลูกค้าของคุณด้วยคะแนนและรางวัล และเพิ่มยอดขายแบบปากต่อปาก

บทความนี้เป็นคู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับฟังก์ชันต่างๆ ในการตั้งค่าคะแนนและระบบการให้รางวัลในร้านค้า WooCommerce ของคุณ และใช้โปรแกรมอ้างอิงโดยใช้ปลั๊กอินความภักดีที่ดีที่สุดสำหรับ WooCommerce

มาเริ่มกันเลย. ในการเริ่มต้น โปรดติดตั้งและเปิดใช้งานคะแนนความภักดีและรางวัลสำหรับปลั๊กอิน WooCommerce ยอดนิยม:

รับคะแนนสะสม Plugin

ทำไมต้องตั้งค่าระบบการให้รางวัลที่ร้าน WooCommerce ของคุณ?

การให้รางวัลแก่ลูกค้าของคุณสำหรับความภักดีของพวกเขาโดยการนับการกระทำของพวกเขาจะนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ยอดเยี่ยมกับร้านค้า WooCommerce ของคุณ เหตุผลบางประการที่จะมีโปรแกรมความภักดีของ WooCommerce ที่ร้านค้าของคุณคือ

• เพิ่มยอดขายแบบปากต่อปากของคุณ
• สร้างคอนเวอร์ชั่นและยอดขายมากขึ้น
• ช่วยลดการละทิ้งรถเข็น
• เพิ่มฐานลูกค้าและสร้างผู้สนับสนุนแบรนด์ที่ร้านค้าของคุณ
• เร่งการจราจรของคุณ
• ช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและระยะยาวกับลูกค้าของคุณ

คำแนะนำฉบับสมบูรณ์ของคุณเกี่ยวกับคะแนนความภักดีและปลั๊กอินรางวัลสำหรับ WooCommerce

สุดยอดคะแนนความภักดีของ WooCommerce และปลั๊กอินรางวัล

• การติดตั้ง
• คุณสมบัติ

วิธีตั้งค่าคะแนนที่ร้าน WooCommerce ของคุณ

• คะแนนในการซื้อ
• คะแนนสำหรับการสมัคร
• คะแนนสำหรับบทวิจารณ์ขั้นสูงของ WooCommerce
• โปรแกรมอ้างอิง
• วิดเจ็ตตัวเรียกใช้

วิธีการแลกคะแนนที่ได้รับ?

ปลั๊กอินความภักดีสามารถส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลที่กำหนดเองได้หรือไม่

คุณจะนำเข้าคะแนนของลูกค้าได้อย่างไร?

ลูกค้าของคุณจะแชร์ลิงก์อ้างอิงผ่านบัญชีโซเชียลได้อย่างไร

จะแปลปลั๊กอินคะแนนสะสมโดยใช้ Loco Translate ได้อย่างไร

สุดยอดคะแนนความภักดีของ WooCommerce และปลั๊กอินรางวัล

ตลาดอีคอมเมิร์ซมีส่วนขยายและปลั๊กอินของ WooCommerce มากมายที่สามารถแนะนำคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพในการกำหนดค่าโปรแกรมความภักดีที่ดีที่สุดที่ร้านค้าของคุณ หนึ่งในปลั๊กอินโปรแกรมความภักดีของ WooCommerce ที่ดีที่สุดในตลาด - คะแนนความภักดีและรางวัลสำหรับ WooCommerce ปลั๊กอินนำประโยชน์มากมายมาสู่ร้านค้าและลูกค้าด้วยฟังก์ชันการทำงานที่โดดเด่น

การติดตั้งปลั๊กอินโปรแกรมความภักดีของ WooCommerce

ให้เราเข้าสู่ขั้นตอนการติดตั้งปลั๊กอินความภักดี

ขั้นตอนที่ 1: ลงชื่อเข้าใช้ส่วนผู้ดูแลระบบ WordPress และไปที่แดชบอร์ด -> ปลั๊กอิน

ขั้นตอนที่ 2: คลิกที่ปุ่ม “เพิ่มใหม่” ดังที่แสดงด้านล่าง

ขั้นตอนที่ 3: การดำเนินการนี้จะนำคุณไปที่ "อัปโหลดปลั๊กอิน" ตอนนี้คลิกที่มัน

คลิกปุ่ม "เรียกดู .." และเลือกไฟล์ Plugin Zip ที่ซื้อและดาวน์โหลดจากเว็บไซต์

เมื่ออัปโหลดไฟล์ที่เกี่ยวข้องแล้วให้กดปุ่ม "ติดตั้งทันที"

ขั้นตอนที่ 4: คลิกที่ปุ่ม "เปิดใช้งาน" เมื่อติดตั้งปลั๊กอินแล้ว

เมื่อขั้นตอนการติดตั้งเสร็จสิ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งานรหัสใบอนุญาตเพื่อรับการอัปเดตอัตโนมัติและการสนับสนุนสำหรับปลั๊กอินของคุณ

คุณสมบัติของคะแนน WooCommerce และรางวัลปลั๊กอินอ้างอิง

ปลั๊กอิน WooCommerce Points and Rewards ช่วยให้คุณกำหนดค่าโปรแกรมความภักดีของลูกค้าให้กับร้านค้าของคุณได้อย่างง่ายดาย

ให้เราดูคุณสมบัติพิเศษบางอย่างของปลั๊กอินนี้

• ให้รางวัลแก่ลูกค้าประจำของคุณโดยทำให้ทุกการโต้ตอบมีค่า
• มอบรางวัลวันเกิดให้กับลูกค้าของคุณ
• แนะนำเพื่อนสำหรับร้านค้า WooCommerce เพิ่ม WOM ซึ่งขับเคลื่อนการเข้าชมและรายได้แบบทวีคูณ
• เจ้าของร้านค้าสามารถควบคุมและจัดการคะแนนและรางวัลของลูกค้าของคุณได้อย่างสมบูรณ์
• การวิเคราะห์คะแนนและรางวัลในเชิงลึกภายใต้หลังคาเดียวกันช่วยให้คุณวิเคราะห์การเติบโตของระบบรางวัลที่ร้านค้าของคุณ
• วิดเจ็ตตัวเรียกใช้ช่วยให้ลูกค้าสามารถดูคะแนนที่ได้รับได้สะดวก
• โปรแกรมแนะนำเพื่อนสำหรับ WooCommerce โดยใช้ปลั๊กอินนี้ช่วยให้ผู้สนับสนุนของคุณแบ่งปันลิงก์อ้างอิงหรือรหัสให้กับผู้ใช้ใหม่ได้อย่างง่ายดาย
• เจ้าของร้านสามารถนำเข้าคะแนนของลูกค้าได้อย่างง่ายดาย
• คุณยังสามารถแปลปลั๊กอินรางวัลความภักดีเป็นภาษาที่ต้องการได้โดยการรวมร้านค้าของคุณเข้ากับปลั๊กอินการแปลของ WooCommerce - Loco Translate

โปรแกรมความภักดีเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในการส่งเสริมและรักษาลูกค้าของคุณ เพิ่มยอดขาย และลดการละทิ้งรถเข็น

วิธีตั้งค่าคะแนนสะสมที่ร้านค้า WooCommerce ของคุณ

จูงใจลูกค้าของคุณด้วยคะแนนแลกได้ซึ่งจะนำไปสู่การขายซ้ำและความพึงพอใจของลูกค้า ปลั๊กอินความภักดีของ WooCommerce ช่วยให้คุณสามารถกำหนดคะแนนสำหรับกิจกรรมต่างๆ ของลูกค้าที่ร้านค้าของคุณ ในฐานะเจ้าของร้านค้า คุณมีสิทธิ์กำหนดคะแนนทั่วโลกหรือสำหรับหมวดหมู่/ผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ร้านค้าของคุณ ให้เราเข้าสู่กระบวนการทีละขั้นตอนของการตั้งค่าคะแนนความภักดีสำหรับการดำเนินการต่างๆ ที่ร้านค้า WooCommerce ของคุณ

1. คะแนนในการซื้อสินค้า

กลยุทธ์ทางการตลาดของการเสนอคะแนนสำหรับการซื้อจะนำมาซึ่งการรักษาลูกค้าที่ยอดเยี่ยมที่ร้าน WooCommerce ของคุณ คุณสามารถส่งเสริมลูกค้าของคุณด้วยการมอบคะแนนแลกรับทุกครั้งที่ซื้อสินค้าที่ร้านค้าของคุณ

ระบบคะแนนสะสมของ WooCommerce สามารถกำหนดค่าได้หลายวิธี

• Global Loyalty Points ที่ร้านค้า WooCommerce ของคุณ
• คะแนนความภักดีในผลิตภัณฑ์เฉพาะ
• คะแนนความภักดีในหมวดหมู่เฉพาะ

ให้เราเข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการของคะแนนสะสมทางวิศวกรรมที่ร้านค้าออนไลน์ของคุณ

กำหนดคะแนนความภักดีของ WooCommerce ทั่วโลก:

ด้วยการดาวน์โหลดรางวัลความภักดีของ WooCommerce คุณสามารถกำหนดคะแนนที่จะได้รับตามจำนวนการซื้อ

สำหรับการกำหนดคะแนนความภักดีทั่วโลก

ไปที่ WooCommerce -> คะแนนความภักดีและรางวัล -> การตั้งค่าและเลือก รับคะแนนสำหรับส่วนการดำเนินการซื้อ

ที่นี่คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าพื้นฐานบางอย่างสำหรับคะแนนสะสมทั่วโลกที่ร้านค้า WooCommerce ของคุณ

เปิดใช้งานรับคะแนน? - เป็นการเปิด / ปิดการทำงานของการรับคะแนน

ลูกค้าสามารถรับคะแนนได้กี่คะแนนเมื่อซื้อ - กำหนดจุดเฉพาะสำหรับแต่ละจำนวนเงินที่ใช้ไป
หากคุณต้องการให้ลูกค้าของคุณได้รับ 1 คะแนนสำหรับทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ใช้จ่ายไป ให้ตั้งเป็น 1 และ 1
ซึ่งสามารถแก้ไขได้เพิ่มเติมที่ระดับหมวดหมู่/ระดับต่อผลิตภัณฑ์

คะแนนรางวัลสำหรับสถานะคำสั่งซื้อต่อไปนี้เท่านั้น - คุณสามารถเลือกสถานะคำสั่งซื้อได้ คะแนนจะมอบให้กับสถานะที่ตรงกับค่าที่กำหนดไว้ที่นี่เท่านั้น
โดยทั่วไป คะแนนจะได้รับก็ต่อเมื่อลูกค้าทำการซื้อเสร็จสิ้นเท่านั้น
ปลั๊กอินช่วยให้ร้านค้าของคุณแจ้งจุดที่ลูกค้าจะได้รับ ทั้งที่หน้าตะกร้าสินค้าและหน้าชำระเงิน

ยกเว้นบทบาทของผู้ใช้จากการได้รับคะแนน - คุณสามารถเลือกบทบาทของผู้ใช้ที่จะถูกแยกออกจากการรับคะแนน

โหมดการปัดเศษสำหรับคะแนนที่ได้รับ - คุณสามารถตั้งค่าการปัดเศษเป็นคะแนนที่ได้รับ
ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าใช้จ่าย $15.50 สำหรับสินค้า คุณสามารถระบุคะแนนที่ได้รับโดยการปัดเศษเป็นค่าจำนวนเต็มที่ใกล้ที่สุด
ปัดเศษลงเสมอ - นี่จะทำให้คะแนนเป็น 15
ปัดเศษขึ้นเสมอ - นี่จะทำให้คะแนนเป็น 16

ข้อความคะแนนที่จะแสดงเป็น - ตั้งค่าป้ายกำกับเพื่อแสดงจุดที่ร้านค้า WooCommerce ของคุณ
ตัวอย่างเช่น - รางวัล คะแนนสะสม และอื่นๆ

ไอคอนบัญชีของฉันแสดงตำแหน่ง - ตำแหน่งที่ควรแสดงไอคอนคะแนนในหน้า "บัญชีของฉัน"

คะแนนหมดอายุหลังจาก (ศูนย์สำหรับความถูกต้องไม่ จำกัด ) - คุณสามารถกำหนดวันหมดอายุสำหรับคะแนนแลกได้ สามารถกำหนดวันหมดอายุได้เป็นจำนวนวัน/สัปดาห์หลังจากที่ไม่สามารถแลกคะแนนได้

แจ้งลูกค้าเกี่ยวกับการหมดอายุของคะแนน - หากคุณได้กำหนดวันหมดอายุของคะแนนที่ได้รับแล้ว ตัวเลือกนี้คือการแจ้งให้ลูกค้าของคุณทราบเกี่ยวกับจุดนั้น
คุณสามารถกำหนดระยะเวลาที่จะส่งอีเมลที่เหลือเกี่ยวกับการหมดอายุให้กับลูกค้าได้ (นับจากวันที่ซื้อ)

ภาพหน้าจอด้านล่างแสดงวิธีการแสดงคะแนนในหน้ารถเข็น

หน้าตะกร้าสินค้าจะแสดงด้วยจำนวนคะแนนที่สามารถรับได้จากการซื้อจนเสร็จสิ้น

ตั้งค่าคะแนนความภักดีของ WooCommerce ในผลิตภัณฑ์เฉพาะ:

สามารถกำหนดคะแนนความภักดีได้อย่างง่ายดายในผลิตภัณฑ์เฉพาะ คะแนนส่วนกลางสามารถแทนที่หรือปิดใช้งานในผลิตภัณฑ์เฉพาะได้
หากคุณต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์เฉพาะที่มีค่าคะแนนความภักดีสูงหรือต่ำกว่า สามารถกำหนดค่าได้ในส่วนนี้

สำหรับการกำหนดค่านี้ ไปที่

WooCommerce - ผลิตภัณฑ์ -> ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด-> เลือกผลิตภัณฑ์เฉพาะและคลิกแก้ไข

สิ่งนี้จะนำทางคุณไปยังหน้าด้านล่าง

ในการกำหนดค่านี้ คุณสามารถเลือกที่จะแทนที่คะแนนสะสมทั่วโลก หรือแม้แต่ปิดใช้งานคะแนนสะสมสำหรับผลิตภัณฑ์เฉพาะ

หากต้องการลบล้างการตั้งค่าส่วนกลาง คุณต้องกำหนดคะแนนที่สามารถรับได้ในขณะที่ซื้อผลิตภัณฑ์เฉพาะตามจำนวนเงินที่ใช้ไป

ตัวอย่างเช่น: รับ 2 คะแนนสำหรับการใช้จ่าย 18 ดอลลาร์สำหรับผลิตภัณฑ์นี้
แต่ละ 18 ดอลลาร์ที่ใช้ไปกับผลิตภัณฑ์จะได้รับ 2 คะแนน

ดูที่หน้าผลิตภัณฑ์เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น

เนื่องจากราคาของผลิตภัณฑ์คือ 18 เหรียญสหรัฐ จึงสามารถได้รับ 2 คะแนนเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ตามจำนวนที่กำหนด ในทำนองเดียวกัน สามารถรับ 4 คะแนนเมื่อซื้อสองปริมาณ

คุณยังสามารถกำหนดส่วนลดสูงสุดสำหรับสินค้าในขณะที่ลูกค้าพยายามแลกคะแนนที่ได้รับ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพเมื่อลูกค้าพยายามแลกคะแนนสะสมในการซื้อครั้งต่อไป

ตั้งค่าคะแนนความภักดีของ WooCommerce ในหมวดหมู่เฉพาะ:

เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ คุณสามารถแทนที่คะแนนทั่วโลกหรือแม้แต่ปิดใช้งานคะแนนสะสมสำหรับหมวดหมู่เฉพาะ

ไปที่,

WooCommerce -->> ผลิตภัณฑ์ -> หมวดหมู่ -> เลือกหมวดหมู่เฉพาะ -> คลิกที่แก้ไข

คะแนนจะถูกเพิ่มตามราคาของผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่
เมื่อคุณเลือกที่จะแทนที่คะแนนความภักดีทั่วโลก และคุณสามารถได้รับ 2 คะแนนสำหรับทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ใช้จ่ายในหมวดหมู่เฉพาะ

สมมติว่าราคาผลิตภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์จากหมวดหมู่ A ที่ระบุคือ $55
ในการซื้อผลิตภัณฑ์ในปริมาณมาก ลูกค้าสามารถรับคะแนนได้ 110 คะแนน

คุณยังสามารถตั้งค่าส่วนลดสูงสุดสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์จากหมวดหมู่เฉพาะได้

2. คะแนนสำหรับการสมัคร

เปิดโอกาสให้ลูกค้าของคุณได้รับคะแนนสำหรับการลงทะเบียนที่ร้านค้า WooCommerce ของคุณ กลยุทธ์นี้จะช่วยในการแปลงมากขึ้น

ให้เราดูขั้นตอนการกำหนดค่าคะแนนสำหรับการตรวจสอบผลิตภัณฑ์โดยใช้ปลั๊กอิน WooCommerce Points และ Rewards ที่ดีที่สุด

ไปที่,

WooCommerce-> คะแนนความภักดีและรางวัล -> การตั้งค่า -> รับคะแนนสำหรับการกระทำอื่น ๆ

ดำเนินการตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อตั้งค่าคะแนนสำหรับการลงชื่อสมัครใช้

เปิดใช้งานรางวัลการลงทะเบียนบัญชีและกำหนดคะแนนที่จะได้รับสำหรับการลงทะเบียน

เมื่อลูกค้าลงทะเบียนที่ร้านค้าของคุณ เขา/เธอจะได้รับรางวัลเป็นคะแนน

3. คะแนนสำหรับบทวิจารณ์ขั้นสูงของ WooCommerce

ให้โอกาสลูกค้าของคุณได้รับคะแนนโดยส่งบทวิจารณ์ผลิตภัณฑ์ที่ร้าน WooCommerce ของคุณ กลยุทธ์นี้จะช่วยเพิ่มความไว้วางใจและความมั่นใจของลูกค้า คะแนนรีวิวของ WooCommerce สามารถเพิ่มยอดขายและการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ร้านค้าของคุณ

ดำเนินการตามคำแนะนำด้านล่างเพื่อตั้งค่าจุดสำหรับส่งรีวิวผลิตภัณฑ์

ตั้งค่าคะแนนที่จะได้รับเมื่อลูกค้าส่งรีวิวผลิตภัณฑ์ภายใต้ส่วน “เขียนรีวิว ”

ตอนนี้ เมื่อลูกค้าเขียนรีวิวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ เขา/เธอจะได้รับรางวัลเป็นคะแนนในบัญชีของตน

ลูกค้าสามารถส่งคำวิจารณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้เพียงครั้งเดียว

รางวัลวันเกิด:

ปลั๊กอินโปรแกรมความภักดีของ WooCommerce ที่ดีที่สุดมีคุณลักษณะพิเศษที่คุณสามารถให้คะแนนได้เมื่อลูกค้าอัปเดตโปรไฟล์ของเขาด้วยวันเกิด

หมายเหตุ: วันเกิดเมื่อป้อนแล้วไม่สามารถอัปเดตหรือเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ใช้งานได้เมื่อคุณป้อนวันที่เป็นครั้งแรกเท่านั้น

เสนอรางวัลวันเกิดของคุณและช่วยให้ลูกค้าของคุณได้รับคะแนนมากขึ้นโดยเพียงแค่ป้อนวันเกิดของพวกเขา

4. โปรแกรมอ้างอิง

การเพิ่มโปรแกรมแนะนำเพื่อนไปยังร้านค้า WooCommerce ของคุณเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มยอดขายแบบปากต่อปากของคุณ ด้วยโปรแกรมแนะนำเพื่อนของ WooCommerce ทั้งลูกค้าปัจจุบันและผู้อ้างอิงสามารถรับคะแนนได้ รางวัล (สำหรับผู้อ้างอิง) อาจเป็นคะแนนหรือส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือส่วนลดคงที่หรือทั้งสองอย่าง

ก่อนที่เราจะเริ่มต้นด้วยการกำหนดค่า ให้เราดูว่าโปรแกรมอ้างอิงทำงานอย่างไรด้วยภาพประกอบง่ายๆ

• ผู้ใช้ A สามารถรับคะแนนได้โดยเพียงแค่แนะนำเพื่อนของเขา/เธอให้ไปที่ร้านค้า WooCommerce ของคุณ
• ผู้ใช้ปัจจุบัน A สามารถแชร์ URL อ้างอิงหรือรหัสที่มีอยู่ในบัญชีของฉัน -> หน้าคะแนน
• ผู้ใช้ใหม่สามารถรับคะแนนและส่วนลดด้วยรหัสอ้างอิง
• ผู้ใช้ A (ลูกค้าเดิม) สามารถรับคะแนนได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้ใหม่ทำการสั่งซื้อเสร็จสิ้น

ตอนนี้ ให้เราเจาะลึกการตั้งค่าคะแนนสำหรับโปรแกรมอ้างอิง

ในการตั้งค่าโปรแกรมอ้างอิง WooCommerce ให้ทำตามการนำทางด้านล่าง

WooCommerce -> คะแนนความภักดีและรางวัล -> ผู้อ้างอิง

โปรแกรมแนะนำเพื่อนของ WooCommerce สามารถตั้งค่าได้สองวิธีคือ

• คะแนนโบนัสสำหรับผู้อ้างอิง
• คะแนนโบนัสแบบไดนามิกตามกฎ

คะแนนโบนัสสำหรับผู้อ้างอิง:

ในวิธีการกำหนดค่าจุดอ้างอิงนี้ คุณสามารถตั้งค่าจุดคงที่ทั้งให้กับผู้ใช้ที่มีอยู่ (ผู้อ้างอิง) และผู้ใช้ใหม่ด้วยรหัสอ้างอิง

ในภาพหน้าจอด้านบน

คะแนนที่สามารถหาได้จาก

ลูกค้าปัจจุบัน - 200
ลูกค้าใหม่ - 100

ปลั๊กอินช่วยให้คุณทำการตั้งค่าพื้นฐานบางอย่างสำหรับรหัสอ้างอิงพร้อมกับการกำหนดค่าส่วนลดสำหรับผู้ใช้ใหม่ ภาพหน้าจอด้านล่างแสดงการกำหนดค่า

พารามิเตอร์ในส่วนที่ใช้เพื่อ

• เปิด/ปิดโปรแกรมอ้างอิงของ WooCommerce เลือกตำแหน่งสำหรับข้อความรางวัลที่จะแสดง และตั้งค่าคำนำหน้าสำหรับ URL อ้างอิง
• เปิด/ปิดส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ เมื่อเปิดใช้งานส่วนลด ลูกค้าใหม่จะได้รับส่วนลดตามที่ระบุในการซื้อครั้งแรกของพวกเขา เพิ่มเติมจากคะแนนที่ได้รับ (คะแนนสำหรับการซื้อผ่านการอ้างอิง)

คะแนนโบนัสแบบไดนามิกตามกฎ:

นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการให้คะแนนโบนัสแบบไดนามิกทั้งแก่ผู้ส่งและผู้รับโดยขึ้นอยู่กับยอดรวมย่อยของรถเข็น คะแนนสะสมจะมอบให้เมื่อยอดรวมตรงกับเงื่อนไขรถเข็นที่กำหนดค่าไว้เท่านั้น

ในส่วนนี้ คุณสามารถสร้างกฎตามยอดรวมย่อยของรถเข็นแยกต่างหากสำหรับทั้งผู้อ้างอิงและผู้ใช้ใหม่
ผู้ใช้เดิมจะได้รับคะแนนก็ต่อเมื่อผู้ใช้ใหม่เสร็จสิ้นการสั่งซื้อครั้งแรก (ที่นี่ ผู้ใช้ปัจจุบันจะได้รับ 200 คะแนน)
ผู้ใช้ใหม่จะได้รับคะแนนส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งแรกตามเงื่อนไขยอดรวมรถเข็น (ที่นี่ผู้ใช้ใหม่จะได้รับ 100 คะแนน)

ในฐานะเจ้าของร้านค้า คุณได้รับอนุญาตให้เสนอคะแนนคงที่หรือส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์ตามยอดรวมย่อยของคำสั่งซื้อ (ส่วนลด)

ข้างต้นเป็นสองวิธีในการตั้งค่าโปรแกรมอ้างอิงสำหรับร้านค้าของคุณ แนะนำเพื่อนสำหรับโปรแกรม WooCommerce เป็นที่ที่ผู้สนับสนุนต้องแชร์รหัสอ้างอิงหรือลิงก์ไปยังผู้ใช้ใหม่ ให้เราตรวจสอบว่าสามารถทำได้โดยใช้ปลั๊กอินจุดความภักดีของ WooCommerce

ตัวอย่าง: ร้านค้าของคุณแจ้งว่า “อ้างอิงและรับ 200 คะแนน เพื่อนของคุณได้รับส่วนลด 15% สำหรับการซื้อครั้งแรกโดยใช้รหัสผู้อ้างอิง”

สถานการณ์แสดงให้เห็นว่าลูกค้าปัจจุบันสามารถรับ 200 คะแนน (คะแนนที่ได้รับก็ต่อเมื่อเพื่อนซื้อเสร็จเท่านั้น) สำหรับการแนะนำเพื่อน ผู้อ้างอิงสามารถรับส่วนลด 15% สำหรับการซื้อครั้งแรกโดยใช้รหัสผู้อ้างอิงที่แชร์โดยผู้สนับสนุน

ลูกค้าปัจจุบันจำเป็นต้องแชร์รหัสเพื่อใช้คะแนนโบนัส ให้เราดูว่ารหัสผู้อ้างอิงหรือ URL สามารถแชร์โดยใช้ปลั๊กอินอ้างอิง WooCommerce ที่ดีที่สุดได้อย่างไร

มันง่ายมากที่จะแบ่งปันรหัสหรือ URL โดยผู้ใช้ให้กับเพื่อนของพวกเขาผ่าน FaceBook, Twitter และอีเมล

ในการรับรหัสอ้างอิงหรือ URL

ลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ -> บัญชีของฉัน -> คะแนนของฉัน

ลิงค์หรือรหัสอ้างอิงสามารถแชร์โดยผู้สนับสนุนให้กับผู้ใช้ใหม่ เนื่องจากทั้งคู่ได้รับประโยชน์จากโปรแกรมแนะนำเพื่อน WooCommerce

รหัสอ้างอิงสามารถใช้เป็นรหัสคูปองโดยผู้ใช้ใหม่เพื่อใช้ส่วนลดในการซื้อครั้งแรก

ข้อความรางวัลบัญชีของฉัน: ในส่วนนี้ คุณสามารถป้อนข้อความรางวัลที่จะแสดงบนหน้าบัญชีของฉัน

5. วิดเจ็ตตัวเรียกใช้

วิดเจ็ตตัวเรียกใช้จะแสดงคะแนนที่ลูกค้าได้รับสำหรับการดำเนินการตามลำดับที่ดำเนินการที่ร้าน WooCommerce

วิดเจ็ต Launcher สามารถปรับแต่งได้และเหมาะกับร้านค้าของคุณ ซึ่งลูกค้าสามารถค้นหาสถิติของรางวัลได้ จะแสดงรางวัลสำหรับการซื้อ การสมัคร เขียนรีวิวผลิตภัณฑ์ และการอ้างอิงที่ได้รับจากพวกเขา มันตอบสนองมือถือและสามารถปรับแต่งได้อย่างง่ายดายโดยใช้ WordPress Customizer

วิธีการแลกคะแนนที่ได้รับ?

ในส่วนนี้ คุณจะได้ทราบการกำหนดค่าของการแลกคะแนนที่ได้รับ ในฐานะเจ้าของร้านค้า คุณสามารถใช้พื้นที่นี้เพื่อตัดสินใจว่าลูกค้าของคุณสามารถแลกคะแนนที่ได้รับได้อย่างไร ตามการตั้งค่าที่กำหนดไว้ในส่วนนี้ ลูกค้าของคุณสามารถแลกคะแนนที่ได้รับ

สำหรับการตั้งค่าการแลกรางวัล

ไปที่ WooCommerce -> คะแนนความภักดีและรางวัล -> การตั้งค่าและเลือก "การตั้งค่าการแลกรางวัล"

อัตราการแปลงคะแนนสำหรับการแลกคะแนน
คุณสามารถกำหนดมูลค่าคะแนนที่แลกเป็นส่วนลดได้
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการให้ลูกค้าแลก 2 คะแนนเป็น $1 ให้ป้อน 2 และ 1

การตั้งค่าภาษี
ใช้เฉพาะเมื่อข้อความคะแนนที่แลกแล้วในรถเข็นแสดงว่าไม่มีภาษีและใช้กับภาษี

เลือกวิธีการแลกคะแนนเมื่อใช้คูปอง WooCommerce (หรือบุคคลที่สาม)
ตัวเลือกนี้จะปรากฏในรูปภาพเมื่อคุณมีคะแนนแลกรับพร้อมกับคูปองของบุคคลที่สามรวมถึงคูปอง WooCommerce ที่ใช้ในรถเข็น คุณสามารถเลือกระหว่าง:

• ให้ทั้งส่วนลด Redemption + ส่วนลดคูปอง ทำงานร่วมกันได้
• ปิดใช้งานการแลกคะแนนสะสม (เฉพาะคูปองเท่านั้นที่จะใช้งานได้)
• ปิดการใช้งานคูปอง (การแลกคะแนนสะสมจะได้ผล)

ให้แลกคะแนนเฉพาะสถานะการสั่งซื้อดังต่อไปนี้
เลือกมูลค่าสถานะคำสั่งซื้อที่ควรแลกคะแนนจากบัญชีผู้ใช้
คุณสามารถตั้งค่าเป็นสถานะคำสั่งซื้อที่เสร็จสมบูรณ์ได้หากต้องการให้แลกคะแนนผู้ใช้ในส่วนหลัง

ฉลากแลกคะแนน
ชื่อที่แสดงจำนวนส่วนลดในรถเข็นหลังจากแลกคะแนน

ไถ่ถอนด้วยตนเอง
ตัวเลือกนี้ช่วยให้ลูกค้าของคุณสามารถแลกคะแนนได้ตามต้องการ ป๊อปอัปการแลกรับด้วยตนเองจะแสดงในหน้ารถเข็นเมื่อเปิดใช้งานตัวเลือกนี้เท่านั้น

ดูป๊อปอัปการแลกรับด้วยตนเองในหน้ารถเข็น

จำนวนส่วนลดขั้นต่ำสำหรับการแลก:
กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำที่รถเข็นที่สามารถแลกได้
ตัวอย่างเช่น หากกำหนดจำนวนเงินที่ไถ่ถอนขั้นต่ำเป็น 50
ตามอัตราการแปลง ทุกๆ 2 คะแนน สามารถแลก 1$ ได้

ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ควรมีคะแนนอย่างน้อย 100 คะแนนในบัญชีของตนและรวมยอดรวมย่อย 50 ดอลลาร์ในรถเข็นปัจจุบันของเขาเพื่อแลกคะแนนเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแลกได้

จำนวนส่วนลดสูงสุดสำหรับการแลกของรางวัล
กำหนดจำนวนการแลกรับสูงสุดต่อคำสั่งซื้อ
หากตั้งไว้ที่ 250 ดอลลาร์ ผู้ใช้จะใช้ได้เพียง 500 คะแนนต่อคำสั่งซื้อเพื่อแลกรับเป็นจำนวนเงิน 250 ดอลลาร์ (คำนวณตามอัตราการแปลงคงที่)

ที่นี่,
คุณยังสามารถตั้งค่าส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์สำหรับตะกร้าสินค้าได้อีกด้วย
หากตั้งไว้ที่ 10% ของรถเข็น สามารถแลกคะแนนเป็นส่วนลด 10% ของมูลค่ารถเข็นได้

จำนวนส่วนลดสูงสุดสำหรับการแลกใช้ตามปริมาณผลิตภัณฑ์
คุณสามารถเปิดใช้งานการตั้งค่านี้เพื่อกำหนดจำนวนการแลกรับสูงสุดที่จะเกิดขึ้นต่อผลิตภัณฑ์
คุณสามารถตั้งค่าเปอร์เซ็นต์หรือคงที่ต่อส่วนลดผลิตภัณฑ์
หากมูลค่า 10 คงที่ - แต่ละผลิตภัณฑ์ในรถเข็นสามารถลดราคาได้เพียง $10

คุณยังสามารถแทนที่การตั้งค่าเหล่านี้ได้ในระดับผลิตภัณฑ์และหมวดหมู่ของส่วนลดสูงสุดสำหรับสินค้า

ปลั๊กอินความภักดีสามารถส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลที่กำหนดเองได้หรือไม่

ใช่ แน่นอน ปลั๊กอินความภักดีของ WooCommerce จะส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลที่กำหนดเอง ให้เราดูอีเมลธุรกรรมที่สามารถส่งผ่านปลั๊กอินความภักดี

• รับคะแนนอีเมล
• คะแนนที่ได้รับจากเพื่อน
• คะแนนที่ได้รับจากทนาย
• อีเมลหมดอายุ

อีเมลคะแนนที่ได้รับ: การแจ้งเตือนทางอีเมลนี้จะถูกส่งทุกครั้งที่ลูกค้าได้รับคะแนน เมื่อลูกค้าได้รับคะแนนจากการดำเนินการใดๆ ที่ร้านค้าของคุณ (ซื้อหรือส่งคำวิจารณ์) การแจ้งเตือนทางอีเมลพร้อมรายละเอียดของคะแนนที่ได้รับจะถูกส่งไปยังลูกค้าที่เกี่ยวข้อง

คะแนนที่ได้รับจากเพื่อน: อีเมลแจ้งเตือนนี้จะถูกส่งไปยังเพื่อนเมื่อเขา/เธอซื้อและได้รับคะแนนโดยใช้ลิงก์อ้างอิงจากผู้สนับสนุน

คะแนนที่ได้รับจากผู้สนับสนุน: การแจ้งเตือนทางอีเมลนี้จะถูกส่งไปยังผู้สนับสนุนเมื่อเพื่อนของเขา/เธอทำการซื้อโดยใช้ลิงก์แนะนำของเขา/เธอ

อีเมลหมดอายุ: การแจ้งเตือนนี้ตั้งค่าตามวันหมดอายุที่กำหนดไว้สำหรับคะแนนสะสม สำหรับการตั้งค่านี้ ไปที่

คะแนนสะสม -> การตั้งค่า -> รับคะแนนจากการซื้อ

จุดหมดอายุ: กำหนดวันหมดอายุสำหรับคะแนนที่ได้รับ
แจ้งลูกค้าเกี่ยวกับการหมดอายุของคะแนน: กำหนดระยะเวลาในการส่งอีเมลแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหมดอายุของคะแนนนับจากวันที่ซื้อ

หากคุณต้องการให้ลูกค้าได้รับการแจ้งเตือน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งานอีเมลเหล่านี้จาก WooCommerce -> การตั้งค่า -> อีเมล

คุณจะนำเข้าคะแนนของลูกค้าได้อย่างไร?

การนำเข้าคะแนนลูกค้ามาในภาพในสองสถานการณ์

• เมื่อคะแนนที่ได้รับจากปลั๊กอินความภักดีอื่นจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นปลั๊กอินคะแนนความภักดีและรางวัลสำหรับ WooCommerce
• เพื่อเพิ่มคะแนนให้กับลูกค้าที่มีอยู่

ขั้นตอนการนำเข้าคะแนนและลูกค้า

1. สร้างไฟล์ .CSV รวมถึงจุดที่ลูกค้าต้องนำเข้า
2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีไฟล์ .CSV 2 ไฟล์

• อีเมล - มีอีเมลลูกค้า
• คะแนน - มีคะแนนที่ลูกค้าได้รับ

ไปที่ WooCommerce -> คะแนนความภักดีและรางวัล -> จัดการคะแนน -> นำเข้า

เลือกไฟล์และนำเข้า CSV โดยใช้ตัวเลือกนำเข้า

เมื่อนำเข้าคะแนนและลูกค้าแล้ว จะแสดงบนแดชบอร์ด

ลูกค้าของคุณจะแชร์ลิงก์อ้างอิงผ่านบัญชีโซเชียลได้อย่างไร

ปลั๊กอินโปรแกรมความภักดีและการอ้างอิงของ WooCommerce ช่วยให้ลูกค้าปัจจุบันของคุณสามารถแชร์ลิงก์อ้างอิงผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ เช่น Facebook และ Twitter หากต้องการเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ จำเป็นต้องสร้าง App ID สำหรับร้านค้า WooCommerce ของคุณ ตรวจสอบลิงก์เพื่อทำความเข้าใจขั้นตอนการสร้าง ID แอพ Facebook

จะแปลปลั๊กอินคะแนนสะสมโดยใช้ Loco Translate ได้อย่างไร

ต้องการดูปลั๊กอินระบบคะแนนความภักดีของ WooCommerce ในภาษาภูมิภาคของคุณหรือไม่? จากนั้น Loco Translate ซึ่งเป็นส่วนขยายของ WordPress สามารถช่วยคุณแปลข้อกำหนดของปลั๊กอินและเนื้อหาอื่นนอกเหนือจากค่าเริ่มต้นได้

Loco Translate นั้นง่ายมากในการกำหนดค่าและแปลไฟล์โดยตรงจาก WordPress Dashboard

ขั้นตอนในการแปลปลั๊กอิน:

• ติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอิน Loco Translate
• เลือกภาษาที่คุณต้องการแปล
• เริ่มแปล.

คลิกที่นี่เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการแปลโดยใช้ Loco Translate

กำหนดค่าคะแนนสะสมและโปรแกรมอ้างอิงให้กับธุรกิจของคุณโดยใช้ปลั๊กอินโปรแกรมความภักดีของ WooCommerce ที่ดีที่สุด - คะแนนสะสมและรางวัลสำหรับ WooCommerce และสัมผัสประสบการณ์การพัฒนาที่ยอดเยี่ยมด้วยการแปลงและการขายที่ยอดเยี่ยม

เล็บธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณโดยให้รางวัลลูกค้าของคุณสำหรับความภักดีและปรับปรุงการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ร้านค้าของคุณ

ขอให้คุณโชคดี